อวสาน ! คนมีดีแค่คะแนน

เมื่อคะแนนอย่างเดียวมันไม่พออีกต่อไปในโลกของการเรียนต่อระดับโลก ลองจินตนาการดูนะครับ น้องๆ ได้เข้าไปเรียนในมหาวิทยาลัยในฝัน Top 10 ของโลก เพื่อนๆ ในคลาสคือ คนที่ GPA สูงระดับเกือบ 4.0 และ GMAT Focus สูงมากๆ ระดับ 675++ แต่ไม่มีใครคุยกันเลย

เช้าเข้าเรียน เรียนเสร็จกลับห้อง ในห้องเรียนไม่มีใครตั้งคำถาม ไม่มีใคร Discuss ไม่มีใครลุกขึ้นมา Propose idea ใดๆ ให้อาจารย์ กิจกรรมของชมรมต่างๆ เงียบเหงา ไม่มีคนจัด Event ไม่มีใครทำอะไรนอกจากอ่านหนังสือสอบ แล้วจบออกมา คนเหล่านั้นก็เก่งอยู่คนเดียว ไปทำงานเงียบๆ อยู่ในโลกของตัวเอง ทำเพื่อตัวเอง ไม่ได้สร้างอะไรให้สังคม ไม่ได้ Inspire ใคร ไม่ได้ทำให้โลกดีขึ้น

ฟังดูน่าเศร้าใช่ไหมครับ? และนี่คือสิ่งที่มหาวิทยาลัยระดับโลกไม่ต้องการให้เกิดขึ้นเลย

มหาวิทยาลัยไม่ได้มองหาคนเก่งที่สุด แต่เขามองหาคนที่เก่งพอประมาณ แต่ปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะทำให้คนรอบข้างดีขึ้น มารวมกลุ่มเรียนรู้ซึ่งกันและกันที่มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยจึงอยากได้นักเรียนที่มี Sense of contribution เช่น นักเรียนที่เข้าเรียนแล้วมีส่วนร่วมใน Class, นักเรียนที่สร้าง Club สร้าง Activity ต่างๆ ให้เพื่อนๆ, นักเรียนที่กล้าแสดงความเห็นในการพัฒนามหาวิทยาลัยให้ดีขึ้น

เพราะคนเหล่านี้แหละ ที่จบออกไปแล้ว จะสร้าง Impact ในวงกว้าง ทำให้รุ่นน้องๆ มองว่าพี่ๆ เป็น Idol และอยากจะไปเรียนตามรอยพี่ๆ ทำให้ชื่อของมหาวิทยาลัยเป็นที่ใฝ่ฝันของคนรุ่นหลังต่อไป

ถ้า Harvard หรือ Oxford รับแค่คนที่มีคะแนนดีอย่างเดียว ทั้งคลาสก็คงเต็มไปด้วยคนจีนคนอินเดีย เพราะ 2 ประเทศนี้ มีคนอัจฉริยะที่ทำ GMAT ได้สูงมากๆ และ GPA 4.0 เยอะมากจริงๆ แต่เราจะเห็นว่าไม่ใช่เลย คะแนน GMAT Focus ของทั้ง Class มี Range ที่กว้างพอสมควร เช่น 595-685 (เกือบ 100 คะแนน) เป็นต้น แถมมีคนหลายเชื้อชาติ หลาย Background มากมาย

อย่างที่ Mission To Top U เอง เราช่วยน้องๆ ที่หลายคนคิดว่าไม่มีทางสอบติด กลับกลายเป็นสอบติด เช่น GPA 2.40 และ GMAT 640 (เทียบเท่า GMAT Focus 595) สอบติด INSEAD MBA (อันดับ 1 ของยุโรป) หรืออีกเคสหนึ่ง GMAT แค่ 590 (เทียบเท่า GMAT Focus 545) สอบติดทั้ง Oxford และ Cambridge MBA เป็นต้น

แล้วมหาวิทยาลัยจะรู้ได้อย่างไรว่าใครคือคนที่ใช่?

คำตอบคือ อ่านจาก Application นั่นเองครับ เช่น
– อ่าน Resume เพื่อดูว่าน้องๆ เคยทำอะไรมาบ้าง?
– อ่าน Essays เพื่อดูว่าเป้าหมายน้องๆ คืออะไร? น้องเป็นคนแบบไหน? Value เรื่องอะไร?
– อ่าน Recommendation Letters เพื่อดูว่าคนอื่นมองน้องๆ อย่างไร?
– VDO Essay / Interview เพื่อดูบุคลิกตัวจริงของน้องๆ ว่าเป็นอย่างไร?

แล้ว Output เหล่านี้ จะดีไม่ได้เลย ถ้าไม่มี Input ที่ดี จากสิ่งที่เคยทำมาในอดีตจนปัจจุบัน ทั้งการทำงาน (Work) การเรียน (Academic) และ กิจกรรมนอกเวลา (Activity)

ดังนั้น พี่เมฆอยากฝากน้องๆ ว่าอย่าทุ่มเทแต่กับการสอบอย่างเดียวเด็ดขาด หรือใครคะแนน GPA GMAT GRE สูงแล้ว ก็ห้ามชะล่าใจ ใครที่ยังไม่รู้เป้าหมายชีวิต ให้รีบหา ส่วนใครที่รู้แล้วว่าเป้าหมายชีวิตคืออะไร ให้ทบทวนดูว่าสิ่งที่เคยทำมาในอดีตทั้งหมด มันเป็นหลักฐานสะท้อน Passion ของเราที่จะไป Reach เป้าหมายนั้นหรือยัง?

ถ้ายัง ต้องหา Activity ทำเสริมตั้งแต่วันนี้แล้วไม่ใช่ตอนใกล้เขียน Resume และ Essay แล้วค่อยมาเร่งทำหรือมาแต่งเรื่องขึ้นครับ

ถ้าน้องๆ ไม่แน่ใจว่าสิ่งที่ทำมาแล้วมันดีพอหรือยัง? หรือควรทำอะไรเพิ่มให้ Profile เราแข็งแรงขึ้น? พี่เมฆและทีม Mission To Top U ยินดีช่วยดูแลและออกแบบเส้นทางให้นะครับ ปรึกษาได้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย

รับเคล็ดลับเรียนต่อฟรี ส่งถึงมือทุกสัปดาห์ 
น้องๆที่จะสมัคร ไปเรียนต่อ MBA หรือ Master’s Degree สายอื่น อย่าพลาด
ปรึกษาฟรี!!!! คลิกเลย FREE CONSULTATION
ฟังเรื่องราวความสำเร็จของนักเรียน MTU คลิกเลย

Scroll to Top