แนะนำโปรแกรม Global MBA Michigan Ross

Global MBA Michigan Ross
Global MBA Michigan Ross

“ความพิเศษของโปรแกรม Global MBA Michigan Ross ที่พิเศษมากจริงๆ คือตัวค่าเฉลี่ยของ GMAT / GRE น้อยกว่าโปรแกรม Full-Time MBA และสามารถสอบ EA ได้ด้วย เรียกว่าเป็นโปรแกรมที่สมัครเร็ว รู้ผลเร็ว ไปเรียนเร็ว แล้วก็จบเร็วด้วย”

วันนี้เราจะมาพูดถึงโปรแกรมหนึ่งที่มีความน่าสนใจมากๆ แล้วก็อยู่ในอเมริกา โปรแกรมนั้นคือ Global MBA Michigan Ross ซึ่งก็คือโปรแกรมที่ทาง Ross ออกแบบมา เพื่อให้คนที่มีประสบการณ์ทำงานมาสักระยะหนึ่งแล้ว มีความต้องการที่จะกลับไปทำงานประจำที่ประเทศตนเองหรือแม้กระทั่งบางคนที่มีธุรกิจของตัวเอง แล้วไม่อยากเสียเวลาเรียน MBA แบบนานๆ ถึง 2 ปี ซึ่ง Global MBA เรียนกัน 15 เดือน เริ่มเรียนตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ไม่มีเบรคกลางคัน ไม่มีเบรคให้ฝึกงาน

ถามว่า 15 เดือนเรียนอะไรบ้าง? จะ breakdown เป็น 4 เทอม เทอมที่ 1 และ 2 เรียนเรื่อง Foundation คือ เรียนกับกลุ่มคนที่มาเรียน Global MBA โดยเฉพาะเลย 1 ปี โปรแกรมนี้จะรับนักเรียนประมาณ 35-50 คน จะเป็น class ที่ค่อนข้างเข้มข้น เรียนด้วยกัน 50 คน ถ้าน้องเข้าไปเรียนก็คือได้รู้จักทุกคนแน่นอน แล้วก็จะสนิทกันกับ 50 คนนี้

เทอมที่ 2 นอกจากตัว Foundation ที่น้องเรียนแล้ว ก็จะมี class ที่ชื่อว่า MAP ซึ่งเป็น Signature class ของ Ross เลย ซึ่ง Ross เป็น partner กับบริษัทหลายๆ ที่ หลายๆ ประเทศ ดูว่าบริษัทแต่ละที่มีปัญหาอะไรไหม เดี๋ยวมาให้เด็กเราช่วยแก้ปัญหาให้ ทางมหาวิทยาลัยก็จะจับกลุ่มน้องกับเพื่อนๆ อีก 5-6 คน เพื่อไปแก้ปัญหาให้กับบริษัทนั้นๆ เลย แล้วพอน้องถึงเทอมที่ 3 จะเป็นช่วงที่จะได้เรียน Elective ซึ่งช่วงนี้จะเป็นช่วงที่น้องสามารถไปเรียนรวมกับเพื่อนๆ ที่เป็นโปรแกรม Full-Time MBA และจังหวะนี้น้องก็จะได้รู้จักกับเพื่อนจากโปรแกรม Full-Time MBA ด้วย เพื่อสร้าง network ของน้อง และในเทอมสุดท้าย Ross จะเปิดโอกาสให้น้องๆ ไป exchange ในประเทศอื่นๆ น้องก็ถือโอกาสนี้ไปเปิดมุมมอง เปิดประสบการณ์ใหม่ๆ เจอเพื่อนใหม่ๆ ในหลายๆ ทวีป หรือใครที่ไม่อยากไปก็สามารถเรียน Elective เพิ่มเติม ที่ Ross ได้

มาถึงเรื่องของการสมัคร Ross จะเปิดรับนักเรียนช่วยปลายเดือน August เป็นรอบที่ 1 ปลายเดือน September เป็นรอบที่ 2 และปลายเดือน October เป็นรอบที่ 3 และจะเรียกสัมภาษณ์เร็วมาก 2 อาทิตย์ก็จะเรียกสัมภาษณ์แล้วและภายใน 1 เดือนก็ประกาศผล หลังจากนั้นถ้าผ่าน น้องก็ต้องรีบเตรียมตัวเพื่อไปเรียน เพราะเปิดเทอม February เรียกว่าเป็นโปรแกรมที่ สมัครเร็ว รู้ผลเร็ว ไปเรียนเร็ว แล้วก็จบเร็วด้วย

สิ่งที่ต่างจาก Full-Time MBA คือ ทางโปรแกรมจะไม่ได้ support เรื่องของการหางาน เพราะถือว่าน้องๆ ทุกคนที่มาเรียนโปรแกรมนี้ จบไปแล้วต้องกลับไปทำธุรกิจที่บ้านหรือกลับมาทำงานที่บริษัทเดิมหรือบริษัทใหม่ที่เราหางานเองได้ อีกเรื่องที่พิเศษของ Global MBA มากจริงๆ ซึ่งก็เป็นช่องทางหนึ่ง สำหรับน้องๆ ที่คะแนน GMAT / GRE ไม่สูง เพราะค่าเฉลี่ยน้อยกว่าโปรแกรม Full-Time MBA และที่สำคัญก็คือสามารถสอบ EA ได้ด้วย

ทางเลือกสุดท้าย ถ้าคะแนน GMAT / GRE / EA ไม่สูง จะทำอย่างไรได้บ้าง มีอยู่ 2 ทาง

ทางเลือกที่ 1 คือ ถ้าน้อง Meet requirement ของมหาลัยในการ Waive GMAT ไม่ต้องส่งคะแนนได้ ซึ่งจะมีเงื่อนไข แบ่งเป็น 2 Section ซึ่งน้องต้องมีทั้ง 2 Section นี้ก็คือ

  • Section ที่ 1 น้องต้องจบ Graduate level หรือมี Undergrad GPA มากกว่า 3.25 ถ้าผ่านอย่างใดอย่างหนึ่ง ถือว่าผ่าน Section 1 แล้ว
  • Section ที่ 2 น้องต้องมี CFA / CPA หรือเคยได้เกรด B ขึ้นไป สำหรับคอร์ส Undergrad หรือ Graduate ที่เกียวกับ Quantitative ถ้าน้อง Meet อย่างใดอย่างหนึ่งแล้ว ถือว่าผ่าน Section 2

แล้วถ้าน้อง Meet ทั้ง Section 1 และ Section 2 ก็จะถือว่าน้อง Meet criteria ในการ Waive GMAT / GRE / EA ของ Global MBA แล้ว

ทางเลือกที่ 2 คือ เรียนโปรแกรมที่ชื่อว่า QRC เป็นคอร์สเฉพาะเจาะจงของ Michigan เลย เป็นคอร์สที่เรียนกันประมาณ 20-30 ชั่วโมง เรียนออนไลน์ เรียนฟรีและสอบให้ผ่าน ได้คะแนน 80% ใน Final exam จะสามารถนำ Condition นี้มา Waive GMAT / GRE / EA ได้เหมือนกัน

และอันนี้ก็เป็นทางเลือกหนึ่งที่ทำให้น้องสามารถไปเรียน Top U ของโลกได้ โดยไม่ต้องมี GMAT ค่ะ

รับเคล็ดลับเรียนต่อฟรี ส่งถึงมือทุกสัปดาห์ 
น้องๆที่จะสมัคร ไปเรียนต่อ MBA หรือ Master’s Degree สายอื่น อย่าพลาด
ปรึกษาฟรี!!!! คลิกเลย FREE CONSULTATION
ฟังเรื่องราวความสำเร็จของนักเรียน MTU คลิกเลย

บทความที่เกี่ยวข้อง

EP8: แก้อาการผัดวันประกันพรุ่งยังไง ?

EP8: แก้อาการผัดวันประกันพรุ่งยังไง ? เคยมั้ย อยากนอนเร็ว อยากตื่นเช้า ? อยากออกกำลังกาย ? อยากทำเป้าหมายให้สำเร็จ ? แต่สุดท้ายก็มาตกม้าตายที่คำว่า “เอาไว้ก่อน” เรื่องผัดวันประกันพรุ่ง เป็นเรื่องปกติ เพราะสมองคนเรา “ถูกโปรแกรม” มาให้เป็นนักผัดวันประกันพรุ่งอยู่แล้ว สมองเราจะให้ความสำคัญกับความสุขตรงหน้า “ที่จับต้องได้เลย” (Concrete) มากกว่าการรอคอยความสุขเบลอๆในอนาคต  (Abstract) ติดตามฟังใน Podcast

Read More »

MS in Computer Science VS Data Science

MS in Computer Science VS Data Science เรียนโปรแกรม Computer Science หรือ Data Science จะเลือกสายไหนดี… ?  พี่จะมาเปรียบเทียบโปรแกรม Computer Science และ Data Science  ว่ามีความแตกต่างกันยังไงในเรื่องของเนื้อหาที่เรียน จบมาทำงานอะไร เหมาะกับใครและ มหาวิทยาลัยดังๆมีที่ไหนบ้าง 

Read More »

Topic: 3 มหาวิทยาลัย Top MBA ในเอเชีย

Topic: 3 มหาวิทยาลัย Top MBA ในเอเชีย ถ้าอยากไปเรียนต่อ MBA ในเอเชีย มีที่ไหนแนะนำบ้าง? Top MBA ที่แนะนำ พี่ๆเห็นว่ามี ranking ที่ดี นอกจากนั้นโปรแกรมพวกนี้ยังมี partnership กับ Top MBA ในอเมริกาและยุโรปด้วย หมายความว่า ถ้าเราเรียน MBA

Read More »
Scroll to Top