1.เดือนมกราคมถึงเดือนมิถุนายน
2.เดือนมิถุนายน
สำหรับน้องๆ ที่ต้องการสมัคร Master Degree หรือ MBA ของ Top U แล้วไม่รู้ว่าจะเตรียมตัวอย่างไรดี เพราะมีขั้นตอนหลายอย่างในการสมัคร อีกทั้งน้องๆ บางคนยังต้องการสมัครให้ทันรอบแรกที่จะเปิดรับในช่วงเดือนกันยายนอีก บทความนี้ได้สรุปว่าน้องๆ ควรทำอะไรในช่วงเวลาไหนไว้แล้ว ดังนี้
1.เดือนมกราคมถึงเดือนมิถุนายน
พี่เจสแนะนำให้น้องๆ เริ่มอ่าน GMAT หรือ GRE ไว้เลย และควรเริ่มสอบตอนเดือนมิถุนายน เมื่อผลคะแนนออกมาเราจะได้รู้ว่ามันดีหรือแย่ ต้องสอบใหม่หรือไม่ โดยวัดจากการนำเอาคะแนนตัวเองไปเปรียบเทียบกับคะแนนเฉลี่ยของมหาลัย ถ้าต่ำกว่าคะแนนเฉลี่ยมากๆ จะได้มีเวลาเตรียมตัวสอบใหม่เพื่อเพิ่มคะแนนได้อีก 3 – 4 เดือน ก่อนหมดเขตการรับสมัครรอบแรก
น้องๆ ควรตรวจสอบคุณสมบัติของตนเองกับมหาลัยว่าต้องสอบ IELTS หรือ TOEFL หรือไม่ เพื่อที่จะได้ไม่พลาดขาดคุณสมบัติในการสมัครไป
เพื่อเพิ่มความโดดเด่นของเราให้แตกต่างจากคนอื่นมากยิ่งขึ้น โดยต้องมองดูตัวเราเองก่อนว่าเราชอบกิจกรรมอะไร หรือมีสิ่งไหนที่เราพอทำได้บ้าง
ถ้าน้องมีเวลาว่าง หรือบังเอิญไปเที่ยวในเมืองเดียวกันกับมหาลัยที่สนใจ พี่เจสแนะนำให้ไปเยี่ยมชมมหาลัย เพื่อให้มั่นใจว่าตัวเองเหมาะกับที่มหาลัยนี้จริงๆ และน้องๆ ก็สามารถนำความประทับใจตอนไปเยี่ยมชมมาเขียนลงใน Essay ได้อีกด้วย
2.เดือนมิถุนายน
เนื่องจากหลายบริษัทจะมีการเลื่อนตำแหน่งในช่วงกลางปี หรือไม่ก็มีโปรเจคใหม่ๆ เข้ามา น้องๆ ก็ควรจะไปขอทำโปรเจคที่ท้าทายและได้ริเริ่มสิ่งใหม่ๆ ซึ่งน้องสามารถนำเรื่องการเลื่อนตำแหน่งหรือการทำโปรเจคที่ท้าทายนี้มาเขียนในส่วน Job achievement ได้
ก่อนอื่นเลย พี่เจสอยากบอกไว้ก่อนว่า Resume ในการสมัครงาน และการสมัครเข้ามหาลัยนั้นแตกต่างกันค่อนข้างมาก น้องๆ จึงต้องปรับแต่ง Resume ให้เหมาะสมกับมหาลัยและโปรแกรมที่ต้องการเรียนให้ได้มากที่สุด
จะเป็นหัวหน้า ลูกค้า หรือคนรอบตัวของเราก็ได้ เพื่อให้ตรวจสอบดูว่าเรายังขาดอะไรไปหรือเปล่า อีกอย่างถ้าเป็น Master Degree ที่ Top U นั้น ทางมหาลัยอาจขอจดหมายรับรองจากอาจารย์ ซึ่งน้องๆ ก็ควรขอแต่เนิ่น ๆ เพราะอาจารย์นั้นมักยุ่งและไม่ว่างเขียนให้ภายในเวลาอันสั้น
คำถามสุดแสนจะเบสิคที่มักพบเจอ คือ “ ทำไมอยากเรียนที่นี่” ดังนั้น น้องๆ ควรจะศึกษาโปรแกรมที่สนใจให้ดี จาก website ก็ได้ คุยกับศิษย์เก่าก็ได้ หรือจะไป visit มหาลัยก็ได้ ว่าโปรแกรมสามารถทำให้น้องๆ ต่อยอดกับอาชีพที่อยากทำหลังจากเรียน Top U ได้อย่างไร
3. เดือนกรกฎาคม
วางแผนรอบสุดท้ายในการเลือกมหาลัยให้มั่นใจและแน่นอน ว่ามหาลัยนี้เหมาะกับคุณ อาชีพของคุณ รวมไปถึงไลฟ์สไตล์ต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน และตัดสินใจว่าจะสมัครมหาลัยใดบ้างในรอบ 1 และรอบ 2
การเขียน Essay นั้นไม่ใช่เพียงแค่อาทิตย์เดียวก็ทำเสร็จ จำเป็นต้องใช้ระยะเวลานาน 2 ถึง 3 เดือนเป็นอย่างน้อย เพราะบางมหาลัยอาจจำกัดจำนวนคำเขียน จึงทำให้เราต้องกรั่นกรอง และวางแผนว่าจะเขียนอะไรลงไปให้ดีที่สุดภายใต้ข้อจำกัดเหล่านี้
4. เดือนสิงหาคมถึงกันยายน
ทำให้น้องรู้ว่าในเรียงความนี้ยังขาดอะไรไปบ้าง ต้องปรับจุดไหน และไม่โอเคอย่างไร โดยการให้คนอื่นเป็นผู้แนะนำ
Schedule a 15-min call to get your questions answered by admissions experts